8 วิธีแก้อาการเหนื่อยง่าย ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจกลับมาสดชื่นอีกครั้ง

8 วิธีแก้อาการเหนื่อยง่าย ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจกลับมาสดชื่นอีกครั้ง

ในปัจจุบัน คนไทยต้องฝ่าฟันโรคโควิท-19 ที่เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายมนุษย์เกิดความเสื่อมโทรมจนถึงแก่ชีวิตได้ นั่นก็คือ “อาการเหนื่อยง่าย” ที่นอกจากจะทำให้สภาพร่างกายภาพอ่อนหล้า หายใจแรง เหนื่อยง่ายแล้ว ยังส่งผลให้สภาวะจิตใจของผู้ป่วยหม่นหมองอีกด้วย

แล้วผู้ที่มีอาการเหนื่อยง่ายเกิดจากอะไร? มีวิธีรักษาด้วยการบำบัดแบบไหน? ทาง Code For Men จะมาให้ความรู้วิธีแก้อาการเหนื่อยง่าย ให้กับผู้ที่มีอาการเหนื่อยง่าย สามารถรักษาได้ด้วยตัวเองในบทความนี้ เพราะทุกๆ วัยสามารถประสบพบโรคโควิท-19 และโรคภัยชนิดอื่นที่ไม่อาจคาดฝันไว้ได้

เลือกหัวข้ออ่าน

วิธีแก้อาการเหนื่อยง่าย

ข้อควรรู้สำหรับวิธีแก้อาการเหนื่อยง่าย

อาการเหนื่อยง่าย คือ ภาวะร่างกายอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยไปตามตัวตั้งแต่ศีรษะจนไปถึงปลายเท้า โดยสาเหตุของอาการเกิดจากผู้ป่วยใช้ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งอย่างหักโหมติดต่อหลายวัน จึงทำให้ส่วนตรงบริเวณที่ถูกใช้งานเกิดภาวะล้า เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย หากปล่อยอาการทิ้งไว้ อาจส่งให้ระบบอวัยวะภายในร่างกายทำงานผิดปกติได้ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เป็นต้น

สาเหตุของอาการเหนื่อยง่าย มีวิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายอย่างไร

ทุกคนที่ประสบปัญหาอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น ไม่มีแรง ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรามีเคล็ดลับที่ช่วยฟื้นฟู้ร่างกายของคุณได้ง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ด้วย  วิธีแก้อาการเหนื่อยง่าย มีดังนี้

1. นอนให้ตรงเวลา

วิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายที่ทุกคนสามารถปรับพฤติกรรมได้ทันทีคือการเปลี่ยนช่วงเวลาพักผ่อนให้นอนหลับอย่างตรงต่อเวลา เพราะในขณะที่เราหลับกลไกลการทำงานของร่างกายมนุษย์จะฟื้นฟู้สภาพร่างกายที่อ่อนล้า ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กลับมามาทำงานปกติ อีกทั้งการนอนหลับช่วยเพิ่มความผ่อนคลายทั้งกายภายและจิตใจให้กลับมานิ่งสงบ และจัดระบบความคิดให้มีการเรียบเรียงอย่างเป็นระเบียบ โดยระยะเวลาการนอนขั้นต่ำของผู้ใหญ่ ควรหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงเป็นขั้นต่ำ

2. ลดการทานหวาน

เมื่อร่างกายได้รับความเครียดมากๆ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สมองของมนุษย์ต้องการความหวานเข้ามาหล่อเลี้ยงร่างกาย แต่ในความจริงแล้ว วิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายด้วยการทานของหวานไม่ใช่วิธีแก้ที่ถูกต้อง หากต้องการความหวานเข้าสู่ร่างกาย ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสพติดของหวาน โดยเริ่มจาก งดทานอาหารที่มีความหวานจัด เลือกทานผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ให้ความหวานแทน เช่น หญ้าหวาน และรวมถึงหันมาดื่มน้ำเปล่าแทนเพื่อชำระสารพิษตกค้างในร่างกาย ให้ถูกขับถ่ายออกไป

3. เลิกเล่นมือถือก่อนนอน

การเสพติดดูโซเชียลมีเดียก่อนนอนมักเป็นพฤติกรรมปกติของมนุษย์ปัจจุบัน แต่หากเลิกเล่นมือถือก่อนนอนได้จะช่วยบรรเทาความอ่อนหล้าของกล้ามเนื้อดวงตา ให้มีการทำงานที่หยืดหยุ่นในเช้าวันรุ่งขึ้นในวันถัดไป เนื่องจากแสงสีฟ้าของมือถือ คือ คลื่นพลังงานที่ส่งผลทำให้ประสาทตาเกิดความเสื่อมเสียได้ ผู้ที่เสพติดดูมือถือก่อนนอน เมื่อตื่นเช้า จะมีอาการพร่ามัว มองเห็นภาพเบลอ มองไม่ชัด ตาไม่สู้แสง และอาจนำไปสู่ภาวะกระตาเสื่อมได้ วิธีแก้คือควร หยุดเล่นมือถือ 1 ชั่วโมงก่อนหรือ สวมใส่แว่นถนอมใส่ตาที่มีฟิลเตอร์กรองแสงสีฟ้าออกไป 

4. ดื่มน้ำต่อวันให้เพียงพอ

น้ำเป็นวิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายที่สำคัญต่อร่างกายมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะน้ำเปล่า เพื่อรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย มีความชุ่มชื้น เร่งระบบเผาผลาญของร่างกาย และส่งเสริมให้ระบบการทำงานภายในร่างกายสามารถดำเนินกลไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมนุษย์ควรดื่นน้ำเปล่าขั้นต่ำ 1.5 ลิตร หรือ 7-8 แก้วต่อวัน

5. ปรับวิธีการออกกำลังกายของตัวเอง

การออกกำลังกายเป็นวิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง หากผู้ป่วยที่ไม่เคยออกกำลังมาก่อน สามารถเริ่มต้นด้วยการดื่มน้ำก่อนออกเครื่อง หรือวอม์อัพอุ่นเครื่องออกกำลังกายเบาๆ แล้วโฟกัสส่วนที่ต้องการคลายความตึงเครียดก่อนแล้วจึงค่อยบริหารส่วนร่างกายอื่นๆ ในภายหลัง โดยทั่วไปผู้ป่วยควรออกกำลังกายทุกๆ วัน ระยะเวลาขั้นต่ำ 30 นาทีต่อหนึ่งวันของช่วงเช้าหรือช่วงค่ำก็ได้ แม้ผู้ป่วยจะหายอาการหายใจแรง เหนื่อยง่าย ก็ควรออกกำลังกายเป็นกิจวัตรชีวิตประวันต่อไป เพื่อบริหารส่วนของร่างกายให้มีความหยืดหยุ่น และไร้โรคภัยในอนาคต 

6. ลดคาเฟอีน

การลดคาเฟอีนเป็นวิธีแก้อาการเหนื่อยมากแบบออแกนิค โดยเริ่มต้นอาจจะลดปริมาณการดื่มคาเฟอีนให้น้อยลงก่อน เมื่อร่างกายไม่อยากคาเฟอีนมากขึ้นให้เปลี่ยนมาเป็นน้ำเปล่าแทน และเลือกอาหารที่ให้พลังงานสูงแทนแบบธรรมชาติ เพียงเท่านี้ระบบภายในร่างกายจะมีกลไกลการทำงานได้ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การผลิตฮอร์โมน คอลลาเจน หรือการผลิตแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

7. ลดการทานแป้ง

การลดทานแป้งจากวัตถุดิบแปรรูปแล้วหันมาทานผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ให้พลังงานแทน จึงเป็นวิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายแบบเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเปลี่ยนจากการทานขนมปังเป็นขนมปังโฮลวีท , เลือกข้าวกล้องหรือข้าวไรท์เบอร์รี่แทนข้าวเปล่า และเปลี่ยนการใช้น้ำตาลมาเป็นน้ำผึ้ง เผือก เป็นต้น

8. ทานวิตามินเสริม

การทานวิตามินเสริมเพื่อซ่อมแซมส่วนที่ร่างกายขาดหรอ หรืออ่อนหล้าออกไป จึงเป็นวิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายวิธีหนึ่ง เพื่อเสริมสร้างกลไกลการทำงานของระบบอวัยวะดำเนินการได้ดียิ่งขึ้น

แก้อาการเหนื่อยง่าย

สรุป

โดย 8 วิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายนี้ เป็นเคล็ดลับของผู้ป่วยอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น ไม่มีแรง สามารถปฏิบัติได้ด้วยตัวเองทันที แม้ใช้ระยะเวลานาน แต่รับประกันผลลัพธ์ภายหลังอย่างแน่นอนว่า คุณจะแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีอย่ายั่งยืน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    Cookies Details

บันทึกการตั้งค่า