สุขภาพของผู้ชาย
ไซส์ถุงยาง ขนาดถุงยางอนามัย วัดยังไง เลือกอย่างไรให้ถูก ปลอดภัย
06
Aug
Aug
เชื่อว่าหลายคน น่าจะเคยผ่านประสบการณ์การซื้อถุงยางอนามัย ในร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายยา กันมาบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีคุณผู้ชายอีกหลายคนที่ยังเป็นมือใหม่ ที่ตอนนี้กำลังสงสัยเรื่อง วิธีการเลือกถุงยางอนามัย ไซส์ถุงยาง การวัดขนาดต่างไซส์ถุงยาง แล้วควรซื้อไซส์ถุงยางแบบไหนให้พอดีกับอวัยะวะเพศของตัวเอง
ซึ่งต้องบอกเลยว่า ถุงยางอนามัย ที่วางขายอยู่ตามร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ฯลฯ นั้นไม่ได้เหมือนกันทุกประเภท แต่ละสี แต่ละกล่อง แต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งหากคุณเลือกซื้อ ถุงยางอนามัยผิดไซส์ ผิดประเภท อาจทำให้เกิดอันตรายต่อทั้งตัวคุณเองและคู่นอนได้
ดังนั้นในบทความนี้ Code For Men เลยขอมาอธิบาย ไซส์ถุงยาง ขนาดถุงยางอนามัย วัดยังไง เลือกอย่างไรให้ถูก ปลอดภัย เหมาะสำหรับคุณที่สุด ไปติดตามกันได้เลย
ไซส์ถุงยาง ขนาดถุงยางอนามัย วัดยังไง เลือกอย่างไรให้ถูก ปลอดภัย
ปกติแล้ว ไซส์ถุงยาง ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีขนาดที่เป็นขนาดสากล ที่ถุงยางอนามัยทุกยี่ห้อต้องมีวางจำหน่ายได้แก่ไซส์ 49 (ถุงยางไซส์เล็กสุด) ,52 ,54 และ 56 มม. โดยตัวเลข คือ เส้นรอบวงของอวัยวะเพศชาย ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจผิดนึกว่า ตัวเลขเหล่านั้น ไม่ใช่เส้นรอบวง แต่คือความยาว ถือเป็นเรื่องที่ผิด โดยแต่ละยี่ห้ออาจมีตัวเลือก ไซส์ถุงยาง มากกว่านี้ก็ได้ ตัวอย่าง ไซส์ถุงยาง ของถุงยางอนามัยยี่ห้อ Durex จะมีตั้งแต่ไซส์ 49 ,52 ,52.5, 53 ,54 และ 56 มม. ถือว่ามีขนาดไซส์ถุงยางให้เลือก มากที่สุดแล้วในท้องตลาดปัจจุบัน ส่วนวิธีการวัดไซส์ถุงยาง(มม.) และวิธีการเลือกซื้อถุงยางให้เหมาะกับอวัยวะเพศของตัวเอง จะมีหน่วยวัดแบบละเอียด ดังนี้- ขนาด 49 มม. สำหรับอวัยวะเพศชาย ที่มีเส้นรอบวง 11-12ซม.หรือใหญ่ประมาณ 4.5 นิ้ว
- ขนาด 52 มม. สำหรับอวัยวะเพศชาย ที่มีเส้นรอบวงรอบวง 12-13ซม.หรือใหญ่ประมาณ 5 นิ้ว
- ขนาด 54 มม. สำหรับอวัยวะเพศชาย ที่มีเส้นรอบวงรอบวง 13-14ซม.หรือใหญ่ประมาณ 5.5 นิ้ว
- ขนาด 56 มม. สำหรับอวัยวะเพศชาย ที่มีเส้นรอบวงรอบวง 14-15ซม.หรือใหญ่ประมาณ 6 นิ้ว ขึ้นไป
วิธีวัดไซส์ถุงยาง เลือกถุงยางอย่างไร
วิธีวัดขนาดเส้นรอบวงนั้น เพื่อหา ไซส์ถุงยาง ที่เหมาะสมกับขนาดอวัยวะเพศของคุณมากที่สุดนั้น ถ้าอยากวัดแบบละเอียด เอาแบบตรง ๆ กันเลยให้ลองหาสายวัดมาวัดขนาดรอบวงของอวัยวะเพศของคุณ (ต้องวัดตอนแข็งตัวเท่านั้น) เพื่อเปรียบเทียบขนาด โดยถ้าอวัยวะเพศของคุณมีขนาดเส้นรอบวง น้อยกว่า 49 หรือมากกว่าอยู่ที่ประมาณ 50 ก็สามารถใช้ถุงยางไซส์ขนาด 49 ได้ ซึ่งถือเป็นถุงยางไซส์เล็กสุด ที่มีวางจำหน่าย หรือถ้าใครที่มีขนาดอวัยวะเกิน 50 ขึ้นไป แต่อยู่ในขนาดไซส์รอบวงที่ไม่เกิน 52-53 สามารถเลือก ไซส์ถุงยาง ขนาด 52 ได้ ซึ่งไซส์ถุงยาง ขนาด 52 ถือเป็นไซส์ถุงยางที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย (บางคนมีขนาดอวัยวะเพศ 49-50 ก็ข้ามมาใช้ได้) ส่วนใครที่มี ขนาดเส้นรอบวงอวัยวะเพศใหญ่กว่า 52 ขึ้นไป ก็ต้องเลือกซื้อ ไซส์ถุงยาง ขนาด 54 – 56 ตามขนาดที่วัดได้ได้เลย โดยไซส์ถุงยาง ขนาด 56 ถือเป็นไซส์ที่ใหญ่ที่สุดที่วางขายในท้องตลาดบ้านเราแล้ว
แต่เรื่องนี้เราขอแนะนำเทคนิคที่จะทำให้คุณเลือกซื้อถุงยางให้ถูกไซส์จริง ๆ มาฝากกัน คือ เมื่อวัดขนาดแล้ว ให้ลองซื้อ ถุงยาง มาลองไซส์ดูเลย เช่นถ้าคุณลังเลระหว่างไซส์ถุงยาง ขนาด 49 และ 52 ก็ซื้อมาลองใส่ดูทั้ง 2 ขนาดเลย แล้วเปรียบเทียบกันว่าถุงยางไซส์ไหน สวมใส่ได้พอดีน้องชายของคุณมากที่สุด เป็นการลงทุนแค่ครั้งเดียว แต่จะทำให้คุณเลือกซื้อถุงยางถูกไซส์ไปตลอดชีวิต ก็ถือว่าคุ้มค่า ที่จะลองลงทุนดูครับ
นอกจากขนาดแล้ว เลือกถุงยางควรดูจากอะไรอีกบ้าง
นอกจากปัจจัยเรื่องของ ขนาด ไซส์ถุงยาง ที่คุณผู้ชายทั้งหลายควรต้องทราบ ก่อนการซื้อถุงยางนั้น ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่คุณต้องให้ความสำคัญ ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ ถุงยางอนามัย ด้วยดังนี้วัสดุ
โดยปกติแล้ว ถุงยางอนามัย ที่วางจำหน่ายหรือที่ใช้กันอยู่นั้น จะทำมาจาก ยางธรรมชาติ ซึ่งมีโอกาสที่คนทั่วไปจะเกิดการแพ้ หรือ ระคายเคืองได้น้อยอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนที่มีอาการ แพ้ยางธรรมชาติ ก็จะไม่สามารถใช้ถุงยางอนามัยแบบปกติได้ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะเพศ ทั้งหญิงและชาย รวมถึงอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้นถ้าเกิดว่าคุณ หรือคู่รักของคุณมีอาการแพ้ยางธรรมชาติ ก็ควรหาถุงยางอนามัย ที่ผลิตมาจากวัสดุจำพวก โพลียูรีเทน แต่อาจมีราคาแพงและหาซื้อยากตามท้องตลาดทั่วไป (ต้องสั่งออนไลน์หรือนำเข้าอย่างเดียว)ความหนา บาง
อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นส่วนสำคัญในการเลือกซื้อถุงยาง ของคุณผู้ชายที่รักในการมีเซ็กส์ทุกคนก็คือเรื่องของ ความหนาบาง ของถุงยางอนามัยที่ใช้ เพราะ ความหนาบาง ของถุงยางอนามัยนั้น มีผลต่อความรู้สึกขณะสอดใส่เวลามีเพศสัมพันธ์ของฝ่ายชายเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปความหนา ของถุงยางอนามัยจะอยู่ตั้งแต่ 0.05-0.07 มิลลิเมตร แต่สำหรับบางคนอาจมองว่า เมื่อสวมใส่แล้วทำให้ไม่รู้สึกถึงการเสียดสีเมื่อสอดใส่ เวลามีเพศสัมพันธ์ ก็สามารถเลือกซื้อถุงยางที่มีความบางเป็นพิเศษ แบบ 0.02-0.01 มิลลิเมตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรู้สึกเวลาสอดใส่ ให้ฟีลเหมือนกับการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สวมถุงยางอนามัยได้ทันที เช่นถุงยางอนามัย ยี่ห้อดัง ๆ อย่าง Okamoto, OneTouch ฯลฯ ก็จะมีตัวเลือก ถุงยางแบบบางพิเศษให้เลือก
กลิ่นรสชาติ
เรื่องของ กลิ่นและรสชาติ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ ถุงยางอนามัย ด้วยเช่นกัน เพราะถุงยางอนามัย ในปัจจุบันเกือบจะทุกยี่ห้อที่วางขาย ก็จะมีตัวเลือกของ กลิ่นและรสชาติ ให้เลือกไม่ว่าจะเป็น สตอรเบอร์รี่ ช็อกโกแลต ส้ม กีวี่ หรือรสชาติผลไม้รวมต่าง ๆ ซึ่ง ถุงยางอนามัย ลักษณะแบบนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชอบการมี ออรัลเซ็กซ์ แบบปลอดภัย ก็จะช่วยให้การทำออรัลเซ็กส์ของคุณและคู่รัก มีสีสัน มีรสสัมผัสมากขึ้น สำหรับฝ่ายหญิงเองที่อาจจะเป็นมือใหม่ หรือ ยังไม่กล้าที่จะออรัลเซ็กส์โดยตรงกับอวัยวะเพศชาย ก็จะมีความรู้สึกกล้าและเปิดใจกับการทำ ออรัลเซ็กส์มากขึ้นด้วย
พื้นผิว
อีกหนึ่งความแตกต่างที่คุณจะเห็นได้ชัดเมื่อต้องไปเลือกซื้อถุงยางอนามัยนั่นก็คือเรื่อง ผิวสัมผัสของถุงยางอนามัย ที่มีอยู่หลัก ๆ 2 แบบคือ แบบพื้นผิวเรียบ (Plain) และพื้นผิวขรุขระ โดยถุงยางพื้นผิวเรียบ ก็คือถุงยางแบบมาตรฐานทั่วไป ที่เราเห็นกันตามรูปภาพ ส่วนถุงยางพื้นผิวขรุขระ คือถุงยางอนามัย ที่มีการปรับแต่งพื้นผิวให้เป็น ปุ่ม (Ribbed), ขีด (Dotted) หรือแบบ ปุ่มและขีดในอันเดียวกัน(Ribbed&Dotted) เป็นตัวช่วยที่เพิ่มสีสันในกิจกรรมรัก เพิ่มความแปลกใหม่ รวมถึงเพิ่มมิติการสัมผัสในช่องคลอดในยามสอดใส่ได้ ให้ฝ่ายหญิง รู้สึกเสียว ฟิน มากขึ้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์
